Support
Hawaiianstyle Shop
02-236-5582, 02-237-5534, 02-639-5783
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

อันตรายรังสี UVA และ UVB

วันที่: 2012-08-30 16:38:59.0

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับรังสี UVA และ รังสี UVB

ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะต้องเผชิญกับแสงแดดตลอดเวลา คนไทยไม่ว่าภาคไหนๆก็จะต้องเจอกับแสงแดดตลอดทั้งปี และอาจจะต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน หลายคนคงเคยได้ยินสินค้าที่สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้โดยจากฉลากของสินค้าที่อ่านเด่นชัดที่สุดก็คือ SPF และ บางยี่ห้อก็มีค่า PA ซึ่งทั้ง SPF และ ค่า PA นั้นก็คือ ส่วนผสมที่สามารถป้องกันแสงแดดจากรังสี UVB สำหรับ SPF และ รังสี UVA สำหรับ PA

 

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV)

ดวงอาทิตย์ประกอบไปด้วยรังสีที่มีผลต่อร่างกายของคนเราทั้งมีประโยชน์และให้โทษ รูปแบบแสงที่เปล่งออกมานั้นเรียกว่ารังสีที่อยู่ในรูปแบบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ รังสีเอ็กซ์ รังสีแกมมา รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และรังสีอินฟราเรด โดยรังสีที่มีผลกระทบต่อร่างกายผิวหนังคนเราเป็นอย่างมากนั้นก็คือ รังสีอัลตราไวโอเลต ที่สามารถแบ่งเป็นรังสีคลื่นยาว UVA และรังสีคลื่นสั้น UVB ถึงอย่างไรรังสีอัลตราไวโอเลตก็มีประโยชน์ต่อร่างกายที่ช่วยสร้างวิตามิน D ได้แต่ต้องรับแสงแดดในช่วงเวลา ก่อน 9 โมงเช้าถึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดและรับเพียง 10 - 15 นาทีต่อวันก็เพียงพอ สำหรับวิตามิน D นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายก็คือ ช่วยดูดซึมแคลเซี่ยม และควบคุมปริมาณแคลเซี่ยมในร่างกาย ช่วยในเรื่องการสร้างกระดูกและฟัน แต่ก็อันตรายมากเหมือนกันหากขาดวิตามิน D ก็คือจะเกิดอาการปวดข้อและกระดูก ปวดเมื่อย กระดูกหักได้ง่าย

 

อันตรายจากรังสี UVA และ UVB

จากรายงานได้กล่าวไว้ว่าผู้ชายมีความไวในการสัมผัสรังสีได้มากกว่าผู้หญิง นั้นหมายความว่าผู้ชายมีอัตราเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้สูงกว่าผู้หญิง เพราะฉะนั้นคุณผู้ชายก็ควรให้ความสำคัญกับการป้องกันแสงแดดให้มากขึ้นด้วย

  1. รังสี UVA เป็นรังสีที่มีคลื่นยาว พลังงานต่ำ จะมีผลทำให้ผิวมีสีคล้ำ แดง สามารถทำให้เกิด รอยเหี่ยวย่น 
  2. รังสี UVB เป็นรังสีที่มีคลื่นสั้น พลังานสูง สามารถทำให้ผิวไหม้ บวมแดง หากรับรังสีชนิดนี้เป้นเวลานานแล้วอาจทำให้เกิดมะเร็งได้ และสาเหตุของฝ้าก็เกิดจากรังสี UVB